

ปัญหาใหญ่สำหรับคนใช้รถยนต์ที่ต้องพบเจอกันเป็นประจำ คือ ใช้รถอยู่ดีๆ แต่แอร์รถยนต์ก็ไม่เย็นเสียดื้อๆ เร่งแอร์แล้วมีก็แต่ลมร้อนออกมา หรือบางครั้งแอร์รถ เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง ยิ่งสภาพอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทยของเราด้วยแล้ว จะเปิดกระจกขับก็เสี่ยงเจอกับฝุ่นควันมลพิษอีกต่างหาก ใครเจอปัญหาแบบนี้แล้วก็เชื่อเลยว่าเหงื่อแตกจนแทบจะขับต่อไม่ไหวกันเลยทีเดียว
หลายคนอาจจะกังวลว่า หากเมื่อซื้อรถมือสองแล้ว แอร์รถไม่เย็นจะเป็นปัญหาคู่บ้านที่ต้องเจอเฉพาะในรถมือสองหรือไม่ จริงๆ แล้วแอร์รถไม่เย็นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง แถมยังเกิดได้หลากหลาย วันนี้คาร์ฮีโร่จะพามาค้นหาสาเหตุกันว่า แอร์รถไม่เย็นเกิดจากอะไร และแก้เองได้ยังไงบ้าง
ปัญหาแอร์รถไม่เย็น เปิดมามีแต่ลมร้อนเกิดจากอะไรกัน
แอร์รถยนต์ไม่เย็น เป็นปัญหาที่คนใช้รถทุกคนต้องพบเจอ แน่นอนว่าเมื่อแอร์เสียขึ้นมา เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดรำคาญใจไม่น้อยทีเดียว มาดูกันดีกว่า ว่าสาเหตุของการที่แอร์รถไม่เย็น เปิดมามีแต่ลมร้อนเกิดจากอะไร
น้ำยาแอร์หมด
พอใช้งานรถยนต์ไปสักระยะ น้ำยาแอร์ก็สามารถลดและหมดได้เป็นธรรมดา ซึ่งเมื่อน้ำยาแอร์หมดหรือพร่องลงจนเหลือน้อย ตัวแอร์จะทำความเย็นได้น้อยลง หรือไม่เย็นเลยก็ได้
วิธีเช็กเบื้องต้น: ในระหว่างขับ หากรู้สึกได้ว่าแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมออกมา ให้ลองดับเครื่องยนต์ และสตาร์ทใหม่อีกครั้ง จากนั้นทำการปิด-เปิดระบบแอร์รถยนต์ โดยขั้นแรกลองตรวจสอบดูก่อนว่า พัดลมแอร์ในห้องโดยสารทำงานปกติดีหรือไม่ บางครั้งที่แอร์ไม่เย็น อาจจะเพราะพัดลมไม่ทำงาน แต่ถ้าไม่เจอปัญหาอะไร ขั้นตอนต่อไปให้ตรวจดูที่ท่อเข้า-ออกคอมเพรสเซอร์ ว่ามีคราบน้ำมันเกาะหรือไม่ หรือสังเกตเห็นฟองอากาศเล็กๆ สีขาวผุดขึ้นจำนวนมากหรือไม่ ถ้ามีลักษณะอย่างที่ว่า ก็เป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์หมดอย่างแน่นอน
วิธีแก้: เมื่อแน่ใจแล้วว่าน้ำยาแอร์รถหมด ก็มีทางออกเดียวคือต้องไปเติมน้ำยาแอร์ทันที แต่การเติมน้ำยาแอร์รถยนต์นั้น ต้องเลือกเติมให้ถูกประเภทด้วยเช่นกัน เพราะน้ำยาแอร์นั้นจะมีทั้งระบบ R134a และระบบ R12 ทางที่ดีควรสอบถามช่างให้แน่ใจก่อน เพราะหากเติมไม่ตรงกับรถของเรา อาจจะทำให้คอมเพรสเซอร์หรืออุปกรณ์อื่นเสียหายได้
สายท่อแอร์รั่ว
สายท่อแอร์รั่ว หรือมีการรั่วซึมตามข้อต่อต่างๆ จะทำให้แรงดันแอร์ตก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้เช่นกัน เพราะความเย็นที่วิ่งมาตามสายท่อแอร์ จะส่งมาไม่ถึงภายในตัวรถของเรานั่นเอง
วิธีเช็กเบื้องต้น: ใช้น้ำผสมกับแชมพูตีให้เกิดฟอง แล้วชุบด้วยฟองน้ำ ถูไปตามสายท่อแอร์และข้อต่อต่างๆ ของระบบแอร์ให้ทั่ว หากพบว่าเกิดแรงดันจนฟองอากาศผุดขึ้นมา ก็แสดงว่ามีรอยรั่วซึมตรงบริเวณนั้น แต่หากเป็นตามจุดข้อต่อให้ลองขันให้แน่น แล้วทำวิธีเดิมซ้ำจนกว่าจะแน่ใจ
วิธีแก้: หากปัญหาเกิดจากสายท่อแอร์รั่ว ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งเส้น
ระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์เกิดปัญหา
แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หรือเย็นเฉพาะตอนกลางคืน อาจเกิดจากระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มที่ ระบายความร้อนออกจากน้ำยาแอร์ได้ไม่ดี ส่งผลให้อุณหภูมิสูงจนแอร์ไม่เย็นได้เช่นกัน บางครั้งขับไปติดตรงไฟแดงนานๆ แล้วแอร์รถไม่เย็น ก็มาจากระบบความร้อนบนแผงคอยล์ไม่สามารถระบายความร้อนได้นั่นเอง
วิธีเช็กเบื้องต้น: ให้เปิดฝากระโปรงหน้ารถโดยติดเครื่องยนต์ไว้ และลองเปิดแอร์ดูก่อน สังเกตดูว่าเมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงาน พัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนทำงานพร้อมกันหรือไม่ ถ้าพัดลมแผงคอยล์ร้อนไม่ทำงาน หมุนช้า หรือมีเสียงดัง แสดงว่าระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์เกิดปัญหาขึ้นแล้วนั่นเอง
วิธีแก้: แผงคอยล์ระบายความร้อนรถยนต์ จะมีลักษณะคล้ายๆ หม้อน้ำรถ อยู่ติดกับหม้อน้ำ มีพัดลมระบายความร้อนติดอยู่ด้วย หากพบปัญหาตรงจุดนี้ต้องทำความสะอาดคอนเดนเซอร์ เพื่อให้ระบบแผงคอยล์ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากพัดลมระบายความร้อนเสีย ก็ต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่
ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม
ปัญหาลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง เพราะลูกสูบจะเป็นตัวควบคุมระดับแรงดันของน้ำยาแอร์ ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ หากลูกสูบในคอมเพรสเซอร์หลวม แรงดันน้ำยาแอร์ก็จะถูกดันเข้าสู่คอยล์เย็นน้อย ทำให้แอร์รถไม่เย็น
วิธีเช็กเบื้องต้น: ให้สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ทิ้งไว้ ตรวจดูว่าระบบอื่นที่กล่าวมาแล้วด้านบนทำงานปกติ ก็ให้ลองเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์ดู หากเร่งเครื่องแล้วแอร์เย็น ก็ชัดเจนว่าปัญหาอยู่ที่ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวมนั่นเอง
วิธีแก้: ต้องเปลี่ยนลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์ใหม่ หรือซ่อมด้วยการใช้ลูกสูบมือสอง แต่ราคาซ่อมมีราคาที่ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ลูกใหม่ คนจึงนิยมเปลี่ยนเป็นคอมเพรสเซอร์ลูกใหม่มากกว่า
ชุดวาล์ว และดรายเออร์อุดตัน
ปัญหาจากชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน หรือเสื่อมตามสภาพ จะส่งผลให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์ ไหลเข้าคอยล์เย็นไม่สะดวก หรือทำให้ปริมาณน้ำยาแอร์มีไม่เพียงพอที่จะทำความเย็นในห้องโดยสารได้ ทำให้แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้างได้เช่นกัน
วิธีเช็กเบื้องต้น: ให้สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ทิ้งไว้ เช็กดูว่าในรถมีความเย็นสม่ำเสมอหรือไม่ แอร์ทำงานแบบขึ้นๆ ลงๆ หรือเปล่า จากนั้นให้ลองเร่งเครื่องยนต์ดู หากเร่งแล้วแอร์มีความเย็นมากขึ้น ก็เป็นไปได้เลยว่าชุดวาล์วและดรายเออร์เกิดอุดตัน หรือเสื่อมสภาพลงแล้ว
วิธีแก้: ต้องเปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่ ควรจะเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นพร้อมกัน เพราะดรายเออร์มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกจากน้ำยาแอร์ หากวาล์วแอร์อุดตัน แสดงว่าดรายเออร์ชำรุดหรือเสื่อมสภาพแล้ว
สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน
สายพานคอมเพรสเซอร์มีหน้าที่รับส่งกำลังหลักจากเครื่องยนต์ เพื่อฉุดให้คอมเพรสเซอร์หมุน หากสายพานคอมเพรสเซอร์หลวมหรือหย่อน จะส่งผลทำให้คอมเพรสเซอร์เกิดอาการฟรีขณะทำงาน ตัวคอมเพรสเซอร์จึงไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ทำให้แอร์รถไม่เย็น หรือมีแต่ลมออกมา
วิธีเช็กเบื้องต้น: ให้เปิดฝากระโปรงรถ สตาร์ทเครื่อง เปิดแอร์ทิ้งไว้ แล้วลองสังเกตดูว่า ขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงานมีเสียงดังหรือไม่ และแอร์ภายในรถเย็นหรือไม่ หากมีเสียงดัง เบื้องต้นให้แก้ปัญหาด้วยการตั้ง หรือปรับระดับสายพานคอมเพรสเซอร์ให้ตึงขึ้นกว่าเก่า
วิธีแก้: หากสายพานคอมเพรสเซอร์ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือมีร่องรอยฉีกขาด ควรเปลี่ยนสายพานเส้นใหม่ทันที
ปัญหาคลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท
ปัญหาคลัตช์ลื่นจะทำให้แอร์รถไม่เย็น หรือมีแต่ลมร้อนออกมา ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากกระแสไฟฟ้า ที่ส่งเข้ามายังคลัตช์มีปริมาณน้อยเกินไป จนไม่มีแรงพอที่จะทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูเลย์ได้ หรืออาจติดไม่แน่น เมื่อคลัตช์คอมเพรสเซอร์จับมูเลย์ไม่แน่น ก็เป็นสาเหตุให้คอมเพรสเซอร์มีปัญหา
วิธีเช็กเบื้องต้น: ให้ลองตรวจเช็กระบบการทำงานของสายไฟ ที่ส่งมายังคลัตช์คอมเพรสเซอร์ว่าติดขัดตรงไหนหรือไม่ จากนั้นให้เช็กดูการทำงานของชุดสวิตช์ระดับเซ็นเซอร์ควบคุมความเย็น ที่อาจจะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
วิธีแก้: ต้องไปปรับแต่งหน้าคลัตช์ใหม่ให้เรียบ รวมทั้งตั้งระยะคลัตช์ใหม่
ระบบไฟไม่ทำงาน
ระบบไฟฟ้าภายในรถก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้เช่นเดียวกัน เพราะระบบไฟฟ้าอาจเกิดการลัดวงจร จนส่งผลให้ระบบแอร์ หรือระบบทำความเย็นหยุดทำงาน โดยเฉพาะรถคันเก่าที่มีอายุการใช้งานมานาน
วิธีเช็กเบื้องต้น: หากระบบไฟรถยนต์ไม่ทำงานหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ก็เป็นเรื่องที่เช็กเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ค่อนข้างยาก เพราะต้องมีความชำนาญเกี่ยวกับระบบไฟพอสมควร แต่อาจลองสังเกตการทำงานของระบบไฟส่วนต่างๆ ในรถ ว่ายังสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่ บางครั้งอาจจะเกิดจากปัญหาเล็กๆ เช่น ฟิวส์ขาดหรือฟิวส์ไหม้ ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของแอร์รถเช่นกัน
วิธีแก้: นำรถเข้าอู่ให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ตรวจสอบระบบไฟ
เครื่องยนต์ร้อนเกินไป
บางทีปัญหาแอร์รถไม่เย็น ก็ไม่ได้มีปัญหาจากระบบการทำงานของแอร์โดยตรง อาจจะเกิดจากระบบอื่นของรถยนต์ได้เช่นกัน อย่างเช่น เครื่องยนต์มีความร้อนมากเกินไป หรือพัดลมระบายความร้อนเครื่องยนต์เสื่อมสภาพ ทำให้รอบหมุนช้า รังผึ้งหม้อน้ำอุดตัน ทำให้เกิดความร้อนสะสมในห้องเครื่อง ส่งผลกระทบถึงแผงทำความเย็นระบบแอร์
วิธีเช็กเบื้องต้น: ขณะขับรถควรตรวจเช็กระบบจอแจ้งเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์ว่า มีความร้อนผิดปกติหรือไม่ หากเป็นรถยนต์รุ่นเก่าจะมีเข็มความร้อนเป็นตัวชี้วัด หากเข็มวิ่งไปทางขีดแดงมากไป แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อน แต่หากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีระบบไฟแจ้งเตือน
วิธีแก้: ขั้นแรกให้ปิดระบบแอร์ เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก หากพบว่าเครื่องยนต์ยังร้อนจัด ให้หาที่จอด และดับเครื่องยนต์ทันที เปิดฝากระโปรงช่วยระบายความร้อนและปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นลง จากนั้นให้เปิดฝาตรวจเช็กระดับน้ำหม้อน้ำ แต่ต้องระวังห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะเครื่องยนต์ร้อนอยู่โดยเด็ดขาด ทุกครั้งที่เปิดฝาหม้อน้ำให้ใช้ผ้าปิดที่ฝาไว้ก่อน แล้วค่อยเปิดฝาเติมน้ำ จากนั้นควรนำรถเข้าตรวจเช็กในทันที
ถนอมแอร์รถอย่างไรให้ใช้ได้นาน
ระบบการทำงาน รวมไปถึงอุปกรณ์ทุกชนิดในรถยนต์ หากใช้งานไปนานๆ โดยไม่มีการดูแลให้ถูกวิธี ก็จะเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันสมควร หรืออุปกรณ์บางชนิดก็อาจจะเสื่อมสภาพลงไปตามเวลา ระบบแอร์รถยนต์ก็เช่นเดียวกัน ต้องรู้จักใช้งานอย่างถูกวิธีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็น โดยทำได้ดังนี้
ไม่ควรเปิดแอร์ทันทีหลังสตาร์ทรถ
บางครั้งรถยนต์ของเราจอดที่จอดกลางแจ้ง หรือจอดตากแดดทิ้งไว้ ทำให้เกิดการสะสมความร้อน เมื่อเราสตาร์ทรถแล้วรีบเปิดแอร์ทันที เพื่อให้เกิดความเย็น ระบบแอร์จะทำงานหนักเกินไป ทางที่ดีควรระบายอากาศในรถออกก่อน หรือเปิดระบบแอร์หลังสตาร์ทรถไปแล้วสักพักหนึ่ง แต่หากเป็นรถรุ่นใหม่ ๆ ก็อาจจะเบาใจได้ เพราะมีระบบแอร์อัตโนมัติ ที่ควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์
ปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย
การปิดแอร์หรือปิดสวิตช์ A/C ก่อนถึงที่หมายสัก 3-5 นาที จะช่วยถนอมระบบแอร์รถยนต์ และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็นในระยะยาวได้ แต่การปิดแอร์ที่ว่านี้หมายถึงการปิดระบบแอร์ แต่ยังเปิดให้ระบบพัดลมทำงาน เพื่อช่วยไล่ความชื้นจากคอยล์เย็น ช่วยลดกลิ่นอับ และการสะสมเชื้อราสิ่งสกปรกได้อีกทาง
ไม่ใช้น้ำหอมปรับอากาศที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
ในความเป็นจริง ถึงแม้ว่าน้ำหอมปรับอากาศจะไม่ได้ทำให้แอร์อุดตันได้โดยตรงก็ตาม แต่น้ำหอมระเหยจะไปจับเอาฝุ่นที่ลอยอยู่ในรถ จนกลายเป็นสิ่งสกปรกสะสมเป็นคราบ ตรงช่องระบายอากาศแอร์ หรือช่องคอยล์เย็น หากปล่อยไว้ไม่ทำความสะอาด ก็จะส่งผลให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น
เปิดแอร์ในรถยนต์ให้เหมาะสม
การตั้งอุณหภูมิและระดับพัดลมให้สอดคล้องกัน ก็เป็นการช่วยถนอมระบบแอร์รถยนต์ให้ใช้งานได้นานๆ เมื่อความเย็นเข้าที่แล้ว ก็ไม่ควรปรับอุณหภูมิในรถให้เย็นจนเกินไป เพราะยิ่งเย็น คอมเพรสเซอร์ก็ยิ่งต้องทำงานตลอดเวลา
เช็กแผ่นกรองอากาศแอร์อยู่เสมอ
รถยนต์หลายรุ่นสามารถถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้างทำความสะอาดเองได้ ควรตรวจเช็กให้ดี อย่าปล่อยให้สกปรกจนเกิดการอุดตัน หากกรองอากาศทำงานได้ดี ระบบแอร์ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปิดเคล็ดลับวิธีดูแลแอร์รถยนต์แบบง่ายๆ
นอกจากการถนอมและใช้งานแอร์รถยนต์อย่างถูกต้องแล้ว สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากนั้นก็คือ การดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ไม่ให้เกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็น มาดูกันว่าเคล็ดลับวิธีดูแลแอร์รถยนต์แบบง่าย ๆ ทำได้อย่างไรบ้าง
ตรวจเช็กระยะแอร์รถยนต์ทุก 3 เดือน
ระบบแอร์รถยนต์ก็เหมือนระบบอื่นๆ ของรถยนต์เช่นกัน หากเราใช้รถเป็นประจำ การตรวจเช็กแอร์เป็นประจำก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะหากมีปัญหาเพียงเล็กน้อย ก็จะแก้ปัญหาได้ทันท่วงที และควรตรวจเช็กกับช่างที่ชำนาญ หรือกับศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งคาร์ฮีโร่ เป็นศูนย์สำหรับรถมือสอง ที่มีบริการตรวจเช็กสภาพรถได้มากถึง 221 รายการ ซึ่งการตรวจเช็กสภาพรถนั้น ก็จะเป็นวิธีป้องกันปัญหาแอร์รถไม่เย็นได้เป็นอย่างดี
ดูดฝุ่นในรถเป็นประจำ
ปัญหาฝุ่นเศษสิ่งสกปรกเล็กๆ ในรถ หากปล่อยไว้นานไปจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะฝุ่นจะจับตัวไปอุดตันในช่องแอร์ ทำให้แอร์ทำงานหนักเกินความจำเป็น การดูแลทำความสะอาด เช็ด หรือหาเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กมาดูดฝุ่นในรถเป็นประจำ จะช่วยให้แอร์ไม่อุดตันได้ง่าย โอกาสเกิดปัญหาแอร์รถไม่เย็นก็จะน้อยลง
ปิดช่องแอร์เมื่อเปิดกระจก
การเปิดกระจกขณะขับรถ ฝุ่นละอองและบรรดาสิ่งสกปรกก็จะเข้ามาสะสมในรถได้ง่าย รวมทั้งยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น แต่หากมีความจำเป็นต้องเปิดกระจกรถเป็นเวลานาน ทางที่ดีก็ควรปิดช่องแอร์ทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปอุดตันในช่องแอร์ได้
ปัญหาจากการขับรถท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย ก็เป็นปัญหาที่ใหญ่มากพอตัวอยู่แล้ว แต่หากต้องมามีปัญหากับแอร์รถไม่เย็น แอร์รถเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง หรือแอร์มีแต่ลมร้อนออกมา ก็จะยิ่งเป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวเป็นอย่างมาก ที่สำคัญการซ่อมระบบแอร์รถยนต์ หากดูแลหรือตรวจเช็กไม่ดี ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาบานปลาย ต้องซ่อมนั่นซ่อมนี่กันไม่รู้จบ เป็นเหตุให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจำนวนมากได้ ทางที่ดีที่สุดควรรีบดูแลป้องกัน ถนอมการใช้งานระบบแอร์รถยนต์อย่างถูกต้อง ก่อนสายเกินแก้จะดีกว่า